เรื่อง นางพญากาเผือก
นางพญากาเผือกทำรังอยู่บนต้นไม้ใกล้ฝั่งน้ำ
มีไข่ห้าฟอง…ครั้งหนึ่งเกิดพายุและฝนตกหนัก
ได้พัดต้นไม้โค่นลงแม่น้ำ ไข่ทั้งห้าฟองของนางพญากาเผือกลอยกระจัด
กระจายไปตามกระแสน้ำ ฟองที่หนึ่งแม่ไก่เก็บได้
ฟองที่สองนาคเก็บได้ ฟองที่สามเต่าเก็บได้ ฟองที่สี่วัวเก็บได้
ส่วนฟองที่ห้าราชสีห์เก็บได้ สัตว์ทั้งห้าก็นำไข่ไปกกจนเกิดเป็นตัวเมื่อไข่ฟักเป็นตัวกลับกลายเป็นเด็กชายทั้งห้าคน
และสัตว์ ที่เลี้ยงดูเด็กทั้งห้าก็ตั้งชื่อตามลำดับดังนี้
คือ กกุสันโธ โคนาคมโน กัสสปะ โคดม และศรีอาริยเมตไตร
ครั้นเจริญวัย เด็กทั้งห้าก็พยายามถามหาพ่อแม่เดิมของตน
สัตว์ที่เป็นแม่เลี้ยงก็เล่าได้แต่เพียงว่า
เก็บไข่ที่ลอยน้ำมา เด็กทั้งห้าจึงลาแม่เลี้ยงติดตามหาพ่อแม่เดิมของตน
แต่ละคนต่างก็เดินทางพเนจรติดตามหาพ่อแม่เลียบริมฝั่งแม่น้ำ
ในที่สุดได้เดินทางมาพบกันและได้ไต่ถามความเป็นมา
ซึ่งทุกคนต่างก็ทราบว่าตนเกิดจากไข่ลอยน้ำเหมือนกันและเกิดในวันเดียวกันเป็นที่อัศจรรย์ใจนักก็เลยคิดว่าน่าจะมีแม่เป็นคน คนเดียวกัน
จึงร่วมเดินทางติดตามแม่ด้วยกันทั้งห้าคน
เด็กทั้งห้าได้สืบเสาะหาแม่เท่าใดก็ไม่มีใครทราบ
จึงทำพิธีเซ่นสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้บอกทิศทางติดตามแม่
ด้วยบุญบารมีของเด็กทั้งห้า นางพญากาเผือกซึ่งตายไปแล้วเกิดเป็นเทพอยู่บนสวรรค์
ก็มาปรากฎตัวให้เห็น และบอกว่าตนเป็นแม่เด็กทั้งห้า
นางได้บอกสาเหตุที่ลูกได้พลัดพรากกันเมื่อครั้งเกิดพายุใหญ่ เด็กทั้งห้าจึงถามว่าพวกเขาอยากจะตอบสนองคุณมารดาจะกระทำได้โดยวิธีใด…นางพญากาเผือกจึงบอกว่า
“ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง ซึ่งเป็นวันที่พลัดพรากกัน ให้ลูกๆ ทำกระทงลอยน้ำไปหาแม่
โดยนำไข่สัตว์ มาใส่ในกระทง
และนำด้ายมาทำเป็นรูปเครื่องหมายตีนกา จุดไฟลอยไปตามน้ำพระคงคา กระทง จะไปถึงแม่”
หลังจากนั้น
เด็กชายทั้งห้าก็ทำกระทงลอยน้ำในวันเพ็ญเดือนสิบสองทุกปี และผู้คนอื่นๆต่างก็ ทำกระทงลอยน้ำตามเด็กทั้งห้า
จึงมีการทำพิธีลอยกระทงสืบมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การทดแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณกระทำได้หลายวิธี
ทั้งนี้…ผู้รำลึกถึงและทดแทนบุญคุณ
ของบุพการีคือผู้เจริญ
…
Credit: gotoknow.org/posts/342629
Photo
credit: thamma4me.blogspot.com/2014/03/5.html